หนังสืออัตชีวประวัติของ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ต้องลุกเป็นไฟอีกครั้ง หลังมีบางช่วงบางตอนได้พูดยกย่อง เซร์คิโอ รามอส เป็นกองหลังที่ดีสุดในโลก และมีความเชี่ยวชาญทำให้คู่ต่อสู้ได้รับบาดเจ็บ เหมือนตอนเล่นงาน โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ หัวหอกตัวเก่งของลิเวอร์พูล ในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 2018
หลังเกมครึ่งแรกผ่านไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมง จุดเปลี่ยนของเกมก็เกิดขึ้น เมื่อ ซาล่าห์ เบียดแย่งบอลกับรามอส ก่อนจะโดนล็อกแขนทิ้งตัวล้มลงไปนอนกับพื้น จนทำให้หัวหอกหงส์แดงได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่เล่นต่อไม่ไปไม่ไหว
แม้ รามอส จะพูดเสมอว่า ไม่ได้ตั้งใจทำให้คู่ต่อสู้บาดเจ็บ แต่คิเอลลินี่ ฟันธงว่า รามอส รู้ตัวเองดีว่า การเล่นตุกติกแบบนั้นมีโอกาสทำให้คู่ต่อสู้ได้รับบาดเจ็บ
"เขาเป็นคนที่มี 2 ลักษณะที่แทบไม่มีใครเหมือน เขารู้ว่าจะต้องทำอย่างไรในเกมใหญ่ๆ ที่มีความสำคัญ พร้อมที่จะทำในสิ่งที่เหนือทุกตรรกะ รวมถึงทำให้เกิดการบาดเจ็บ ด้วยไหวพริบแห่งความชั่วร้าย"
"หนึ่งในนั้นก็คือตอนเจอกับ ซาล่าห์ ในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2018 มันสะท้อนให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของเขา"
"เขามักพูดเสมอว่าไม่ได้ตั้งใจทำ แต่เขาก็รู้ตัวดีว่า 9 จาก 10 ครั้ง เวลาล้มลงไปเหมือนที่เขาทำและไม่ยอมปล่อย มันเสี่ยงมากที่จะหักแขนคู่ต่อสู้"
นอกจากนี้ คิเอลลินี่ ยังยกย่อง รามอส ว่าเป็นกองหลังที่ดีที่สุดในโลก และเกมรับเรอัล มาดริด จะเป็นขนมกรุบทันที ถ้าไม่มีเขาคอยบัญชาการ
"พวกเขาพูดกันว่า รามอสเป็นคนหุนหันพลันแล่น เล่นแบบไม่ค่อยใช้ยุทธวิธี นั่นทำให้ 8-10 ประตูที่ทีมเสียไปในแต่ละซีซั่นนี้มีต้นเหตุมาจากความผิดพลาดของเขา จริงๆเขาเป็นคนที่มีเทคนิคดีมาก และอาจเล่นเป็นกองหน้าได้เลย ซึ่งตรงข้ามกับตัวผม" คิเอลลินี่ บรรยายชื่นชมกองหลังเรอัล มาดริด ไว้ในหนังสือของตัวเอง
"ไม่มีเขา เรอัล มาดริดจะกลายเป็นทีมที่เหมือนไม่มีกองหลังไปเลย ไม่มีเขา ราฟาเอล วาราน, มาร์เชโล่ และดานี่ การ์บาฆาล ก็เหมือนเด็กๆที่เล่นฟุตบอลอยู่ในทีมสำรอง"
ทั้งนี้ หนังสือ "อิโอ จอร์โจ้" ของปราการหลังวัย 35 ปี เพิ่งเป็นดราม่ามาสดๆร้อนๆ เมื่อเนื้อหาโจมตีอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่าง มาริโอ บาโลเตลลี่ และเฟลิเป้ เมโล่ ว่าทำตัวน่ารังเกียจ ไม่อยากร่วมงานด้วย ก่อนจะมีการตอบโต้และจบลงที่เจ้าตัวออกมายอมขอโทษในเวลาต่อมา สมัคร Gclub
Comments